วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

แปล extract 2 ข้อสอบO-Net 60


ข้อสอบO-Net ปีการศึกษา2560 (สอบ 3 มีนาคม 2561)

Extract 2

         A young man was walking along the beach at dawn.

ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินไปตามชายหาดในยามเช้า



        Ahead of him, he saw an old man picking up starfish and tossing them into the water.

ด้านหน้าของชายหนุ่ม เขาได้มองเห็นชายแก่คนหนึ่งกำลังเก็บปลาดาวและโยนพวกมันลงไปในน้ำ



        The young man caught up with the old man and asked him, "Why are you doing that?"

ชายหนุ่มได้ตามชายแก่ไปและถามชายแก่ว่า "ทำไมคุณถึงทำแบบนั้น"



5        The old man explained that when the sun came up , the starfish abandoned on the sand would die.

ชายแก่อธิบายว่าเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ปลาดาวที่ถูกทิ้งไว้บนทรายก็จะตา



But the beach goes on for thousands of miles and there are millions of starfish on the beach. "How can you efforts make any difference , Sir?"

แต่ชายหาดยาวเป็นพันไมล์และมีปลาดาวอีกเป็นล้านตัวบนชายหาดนี้ “การพยายามของคุณสร้างความแตกต่างได้อย่างไรหรือ?
(แต่ในบริบทดังกล่าวอาจแปลได้ว่า ความพยายามของคุณจะทำให้อะไรๆดีขึ้นได้อย่างไร)



10     The old Man looked at the little starfish in his hand and, as he tossed it into the waves, he replied “At least it makes a difference to this one.”

ชายแก่มองไปยังปลาดาวตัวน้อยๆ ในมือของเขา ในขณะที่เขาโยนมันลงไปในคลื่น. เขาตอบว่าอย่างน้อยมันก็สร้างความแตกต่างให้กับตัวนี้



        Every child is precious. He/She has the right to live, to grown, to be educated, and to be loved.

เด็กทุกคน มีคุณค่า เขาหรือเธอมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ ที่จะเติบโต ได้รับการศึกษา และได้รับความรัก



Become our World Vision Child Sponsor, and you will makes a difference to a child’s life.

มาเป็นผู้สนับสนุน World Vision Child กับเรา, และคุณจะสร้างความแตกต่างให้ชีวิตของเด็กคนหนึ่งได้.


แปลโดย
บัวชมพู วรดา ณัฐวุฒิ

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย




1

       ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ต.เวียงตาล อยู่ในความดูแลของฝ่ายอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ 
        องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) แต่เดิม ออป. เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและ         แห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย ออป.จึงได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้นเมื่อเดือนมกราคม  พ.ศ. 2535 และจัดกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยว ได้แก่


3 
       การแสดงของช้าง ซึ่งยังคงอนุรักษ์ศิลปะการทำไม้ซึ่งใช้ช้างเป็นพาหนะ และแรงงานที่สำคัญ ในการชักลากไม้ที่ได้จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศได้ชม เวลาในการแสดง
       วันจันทร์ - ศุกร์ มีการแสดง 2 รอบ ในเวลา 10.00 น . และ 11.00 น .
       วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ จะเพิ่มรอบการแสดงในเวลา 13.30 น .
4
       นั่งช้างรอบบริเวณซึ่งเป็นสวนป่า ธรรมชาติยังมีสิ่งดีๆ ที่คอยให้กำลังใจกับเราทุกเมื่อ บางครั้งเราอาจจะสับสนวุ่นวาย เครียดหนักกับการทำงานทั้งวัน ทั้งสัปดาห์ลองหลบความวุ้นวายเหล่านั้น ไป ท่องเที่ยวกับธรรมชาติ โดยเฉาะกับการขี่ช้างชมธรรมชาติ ท่านจะรู้สึกถึงความแปลกใหม่ในชีวิต   เป็นรางวัลจากความเหน็ดเหนื่อยที่จะทำให้ท่านลืมงานที่ออฟฟิคไปอีกหลายวันเชียวแหละการนั่งช้างให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 - 15.30 น .

4
       -การแสดงของลูกช้างทุกวันวันละ 3 รอบคือ 09.30 น., 11.00 น. และ14.00 น.
       -ช้างแท็กซี่ หรือบริการนั่งช้างชมธรรมชาติรอบๆ ศูนย์ฯ มีทุกวัน เวลา 08.00-15.30 น
       -โฮมสเตย์ (Homestay) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตที่ผูกพันระหว่างช้างกับคนเลี้ยงช้างอย่างใกล้ชิด บริการอาหารเครื่องดื่มและร้านขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมสำหรับ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้หลายเส้นทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 054-247871-6

5
       ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards) ประเภทรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พ.ศ.2541 ปัจจุบันศูนย์ฯมีโครงการ โรงเรียนฝึกควาญช้าง               เพื่อฝึกควาญหรือผู้ที่ประสงค์จะเป็นควาญให้สามารถดูแลช้างได้อย่างถูกต้อง มีชาวต่างชาติให้ความสนใจมาสมัครเป็นนักเรียนหลายคน นอกจากเรื่องท่องเที่ยวแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พลังงานที่ใช้ภายในศูนย์ฯ มาจากพลังงานทดแทนในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ มีก๊าซชีวภาพจากมูลช้างใช้ในการหุงต้ม และกระแสไฟฟ้าผลิตจากเซลล์แสงอาทิตย์
6
       สวนป่าทุ่งเกวียน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวลำปาง มีป่าสนเมืองหนาวและพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ใบที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งไม้จำพวกตะบองเพชร และปาล์ม ตลอดจนพืชสมุนไพรต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถแค้มปิ้งที่นี่ได้ ช่วงที่สวยที่สุดเหมาะแก่การพักแรมคือเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบัวตองกำลังบาน เนื่องจากจังหวัดลำปางมีพื้นที่เป็นแอ่งกะทะจึงมีอากาศที่ร้อนกว่าแม่ฮ่องสอน ดอกบัวตองที่ลำปางจึงบานเร็วกว่าที่ดอยแม่อูคอประมาณ 15 วัน
       ประมาณเดือนตุลาคมมีการจัดกิจกรรมทุ่งเกวียนเมาเท่นไบค์ และเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีการจัดงาน “ดอกไม้บานวันพบช้าง”

ที่มาของข้อมูล : http://www.yourhealthyguide.com/travel/tn-thailandelephant.htm


  

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ว่านหางจระเข้สมุนไพรจากสวรรค์


ว่านหางจระเข้

          สมุนไพรไทย ๆ ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับหางแหลม ๆ ของจระเข้ จนได้ชื่อเรียกที่บ่งบอกถึงลักษณะได้ดีว่า ว่านห่างจระเข้ คืออีกหนึ่งพรรณไม้ไทยที่นิยมปลูกไว้ติดบ้าน นอกจากจะใช้ประดับตกแต่งเพื่อความสวยงามแล้ว สรรพคุณต่าง ๆ ของว่านหางจระเข้ยังคุ้มค่าอีกด้วย ส่วนจะมีทีเด็ดขนาดไหนนั้นเราไปทำความรู้จักกับว่านหางจระเข้ให้มากขึ้นกันดีกว่า..

          ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) คือ พืชชนิดหนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในประเภทพืชล้มลุก สีเขียว มีลักษณะลำต้นเป็นข้อปล้อง ใบเดี่ยว ใบหนายาวและโคนใบใหญ่ ปลายแหลม ขอบใบมีหนามห่างกันเป็นระยะ เรียงเป็นชั้น ข้างในใบเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน มีเมือกเหนียว สามารถออกดอกสีแดงอมเหลืองที่ปลายยอดได้ มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและตอนใต้ของทวีปแอฟริกา สามารถปลูกได้ง่ายในดินทราย หรือในกระถางก็ได้ เป็นพืชชอบน้ำ แต่ต้องมีทางระบายน้ำได้ดี ป้องกันไม่ให้อมน้ำมากเกินไปจนรากเน่า


สรรพคุณว่านหางจระเข้

          ว่านหางจระเข้นั้น จัดเป็นพืชที่มีสรรพคุณต่าง ๆ มากมาย สามารถใช้บรรเทาโรคทั้งภายนอกและภายในร่างกาย อีกทั้งยังใช้บำรุงผิวพรรณได้อีกด้วยดังนี้
ประโยชน์ภายนอก
          1. รักษาแผลไฟไหม้และน้ำร้อนลวก โดยปอกเปลือกนอก นำวุ้นสดภายในใบไปล้างยางออกให้สะอาด แล้วนำไปประคบแผลตลอด  2 วันแรก จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน สมานแผลให้เร็วขึ้น และไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นอีกด้วย

          2. ป้องกันและบรรเทารอยไหม้จากการออกแดด นำใบสด ๆ ของว่านหางจระเข้ผสมกับโลชั่นทาลงบนผิวหนังก่อนออกแดดจะช่วยป้องกันแสงแดดได้แต่ถ้าหากเกิดรอยไหม้ขึ้นบนผิวหนังหลังออกแดดแล้ว ให้ใช้วุ้นที่ล้างสะอาดมาทาเพื่อลดอาการอักเสบ ถ้าจะให้ดีลองผสมกับน้ำมันพืช หรือ น้ำมันมะกอก เพื่อลดอาการผิวแห้งตึงจนเกินไป

          3. บรรเทารอยไหม้จากการฉายรังสีของผู้ป่วย  โดยใช้วิธีการนำวุ้นว่านหางจระเข้ที่ล้างสะอาดมาประคบที่รอยไหม้จากการทำคีโมจะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนและทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
                 4. สมานแผลจากของมีคมและแผลถลอก หากได้รับบาดเจ็บจากของมีคม ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ที่ยังมีเมือกอยู่ แปะลงไปบนแผล จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสมานแผลให้เร็วขึ้นได้
                 5. รักษาฝีและโรคริดสีดวงทวาร  ทำความสะอาดบริเวณที่เกิดโรคให้แห้งแล้ว นำวุ้นไปแปะลงบนแผล หากเป็นทวารหนักให้ปอกวุ้นให้เป็นแท่งแล้วล้างให้สะอาด นำไปแช่เย็นให้แข็ง เพื่อสอดเหน็บในช่องทวารหนักวันละ  1-2 ครั้ง อาการริดสีดวงจะดีขึ้น


                 6. รักษาตาปลาและฮ่องกงฟุต  นำเนื้อวุ้นที่ล้างทำความสะอาดแล้ว ไปแปะลงบริเวณที่เกิดโรค หมั่นเปลี่ยนเนื้อวุ้นบ่อย ๆ โดยหากเป็นตาปลาส่วนที่แห้งลงจะเกิดรูบุ๋มขึ้น ให้ใช้ว่านหางจระเข้ประคบต่อไปจนกว่ารอยบุ๋มจะสมานและเล็กลง ส่วนฮ่องกงฟุตให้ด้วยว่านหางจระเข้เอาไว้จนกว่าแผลจะแห้งลงและอาการดีขึ้น
                7. แก้ปวดศีรษะ ตัดใบสดจากต้นว่านหางจระเข้ แล้วนำปูนแดงทาบริเวณวุ้น ถือใบสดแล้วนำวุ้นผสมปูนแดงประคบบริเวณขมับหรือท้ายทอย ตามจุดที่ปวดจะช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้
               8. บรรเทาอาการปวดฟัน  ตัดเนื้อว่านหางจระเข้ออกเป็นแท่งเล็ก ๆ ประมาณ 2-3 เซ็นติเมตร นำไปเหน็บไว้ตามซอกฟันที่มีอาการปวด หรือประคบไว้ก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที อาการปวดจะค่อยๆ บรรเทาลง

ประโยชน์ภายใน
              1. บรรเทาอาการปวดข้อ  นำวุ้นว่านหางจระเข้ที่ล้างทำความสะอาดแล้วไปแช่ตู้เย็น และรับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวดตามข้อต่าง ๆ โดยสามารถใช้ได้ทั้งเนื้อวุ้น และน้ำวุ้น หากอยากให้รับประทานง่ายขึ้น สามารถนำไปปั่นเป็นน้ำว่านหางจระเข้ก็ช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน

              2.    ใช้เป็นยาถ่าย  โดยเลือกตัดว่านหางจระเข้พันธุ์เฉพาะที่ใบใหญ่และมีน้ำยางสีเหลืองในปริมาณมาก   อายุประมาณ   9  เดือนขึ้นไป รองน้ำยางที่ไหลออกมาจากใบ  แล้วนำไปเคี่ยวให้ข้น      เทลงในพิมพ์ขนาดเล็กให้แข็งเป็นก้อนรับประทานเป็นยาได้   ซึ่งเม็ดยาจะมีสีแดงอมน้ำตาลไปจนถึงดำ  เรียกว่า  ยาดำ แบ่งรับประทานครั้งละประมาณ  0.25  กรัม (  250 มิลลิกรัม)   จะเป็นขนาดที่เหมาะสมในการใช้เป็นยาถ่าย หากต้องการรับประทานแบบสด ๆ ก็สามารถทำได้ โดยการตัดวุ้นที่ล้างสะอาดแล้วออกเป็นขนาด  3-4 เซ็นติเมตร แบ่งรับประทานวันละ  3  ครั้งหลังอาหาร
              3.   แก้กระเพาะอักเสบและลำไส้อักเสบ ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ นำวุ้นที่ได้ไปล้างให้สะอาด แล้วนำมารับประทานครั้งละ  2 ช้อนโต๊ะ วันละ  2 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของทางเดินอาหารได้
              4.   ป้องกันโรคเบาหวาน  ตัดเนื้อว่านหางจระเข้ความยาวประมาณ  3-4 เซนติเมตร   นำไปรับประทานทุกวัน  หรือจะปั่นเป็นน้ำว่านหางจระเข้      เพื่อรับประทานก็ได้   โดยอาการเบาหวานจะทุเลาลง   สำหรับผู้ที่เป็นในระยะแรก ส่วนผู้ที่ต้องการรับประทานเพื่อป้องกัน         สามารถรับประทานในปริมาณที่น้อยลงได้
              5.    แก้และป้องกันอาการเมารถเมาเรือ   ท่านที่มีปัญหาในการเดินทาง เกิดอาการเมารถเมาเรืออยู่เป็นประจำ    ให้ลองรับประทานเนื้อวุ้นจากว่านหางจระเข้   หรือน้ำว่านหางจระเข้    ก่อนออกเดินทางจะช่วยบรรเทาให้เกิดอาการดังกล่าวน้อยลงได้ แต่หากเกิดอาการเมารถเมาเรือขึ้นแล้ว ลองทานน้ำว่านหางจระเข้เย็น ๆ ให้ชื่นใจ แล้วนั่งพักสักครู่ จะรู้สึกดีขึ้น


ประโยชน์ด้านความงาม
          1.   บำรุงเส้นผมให้เงางามและช่วยขจัดรังแค  ตัดใบสดมาทาลงบนเส้นผม หรือถ้าไม่สะดวกให้นำวุ้นว่านหางจระเข้ไปปั่นให้ละเอียดจะได้ใช้ง่ายขึ้น จากนั้นนำมาชโลมผมให้ทั่วเพื่อให้ผมสลวยเงางาม หากนวดบริเวณรากผมจะช่วยให้รากผมเย็นลง ช่วยบำรุงหนังศีรษะ รักษาแผลบนศีรษะ และขจัดรังแคได้ด้วย

          2.  รักษาสิวและรอยด่างดำ  ประโยชน์ข้อนี้คนที่อยากหน้าใสตั้งใจอ่านให้ดี เพราะว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อ และมีกรดอ่อน ๆ ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ นำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาดทาบริเวณใบหน้าวันละ  2 ครั้ง ใช้เวลาสัก  1-2 เดือน จะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่าง ๆ ดูจางลง

          3.   บำรุงผิวกาย เพียงแค่นำว่านหางจระเข้สด มาปอกเปลือกและล้างให้สะอาด  จากนั้นหั่นเป็นชิ้นนำไปใส่ไว้ในถุงผ้ากอซขนาดเล็ก แล้วนำไปหย่อนไว้ในอ่างอาบน้ำ  หรือถ้าไม่มีถุงผ้ากอซ  ให้นำวุ้นไปแช่ไว้ในอ่างอาบน้ำเลยก็ได้เหมือนกัน  โดยระหว่างอาบน้ำให้ใช้เนื้อวุ้นถูกตามส่วนต่าง  ๆ ของร่างกาย เน้นที่รอยแห้งกร้านอย่างข้อศอก  หัวเข่า  ส้นเท้า  เป็นต้น  จะช่วยให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม และเต่งตึงขึ้น
          4.   เติมน้ำให้ผิว  ความชุ่มชื้นในผิวหน้าและผิวกาย  มักจะค่อย ๆ ลดลงตามวัย  และไลฟ์สไตล์ของคุณ    ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตกันอยู่ในห้องแอร์จนผิวขาดความชุ่มชื้น  หากนำเนื้อวุ้นจากว่านหางจระเข้มาพอกหน้าก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเติมน้ำให้ผิวของคุณได้ โดยล้างวุ้นให้สะอาด แล้วฝานบาง ๆ มาโปะให้ทั่วหน้า หลับตาพริ้มรอสัก  15 นาที ก็ไปล้างหน้าให้สะอาดได้ ผิวของคุณจะรู้สึกชุ่มชื้น เต่งตึงขึ้น หากจะใช้กับผิวกายให้ลองนำเนื้อไปปั่นหยาบ ๆ แล้วนำมาพอกตัว ก็ใช้ง่ายดีเหมือนกัน
ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้
          เมื่อสรรพคุณของว่านหางจระเข้มีอยู่มากมายรอบด้านขนาดนี้ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกิดจากว่านหางจระเข้ก็ย่อมต้องทยอยออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคมากขึ้น ปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์ที่ถูกแปรรูปจากว่านหางจระเข้อยู่หลากหลาย ดังนี้
          1.  เจลว่านหางจระเข้ สรรพคุณ ใช้ทาเพื่อลดอาการบวม เป็นครีมทาใต้ตา บำรุงผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น ใช้ผสมกับส่วนผสมต่าง ๆ พอกหน้าแทนวุ้นว่านหางจระเข้ได้ ทั้งยังใช้ทาแผลพุพอง แผลสด เพื่อบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนได้อีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่านการยิงเลเซอร์ และมีรอยไหม้แดงบนใบหน้า จะทำให้บรรทาอาการลงและฟื้นตัวเร็วขึ้น

          
วัสดุ- อุปกรณ์และสารเคมี
          1.   กะละมัง   3   ใบ
           2.    มีด  2   เล่ม
           3.   ขวดใส่ผลิตภัณฑ์    6   ขวด
           4.    ช้อน   5  คัน
            5.    ถ้วยตวง   3   ถ้วย
            6.   ผ้าขาวบาง   2  ผืน
            7.   ผลมะนาว    8   ลูก
            8.    ว่านหางจระเข้   10- 15  ก้าน
            9.   แอลกอฮอล์   1   ขวด

วิธีการทำเจลล้างมือว่านหางจระเข้ 
                      
1.  นำว่านหางจระเข้   ล้างทำความสะอาดภายนอก  ปลอกเปลือกแล้ว
หั่นเป็นชิ้นเล็ก     



 2.  นำเนื้อว่านหางจระเข้ไปล้างน้ำอุ่น  เพื่อล้างยางออก

3.  นำไปปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด 

4.  นำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง   บีบคั้น ให้น้ำเจลออกมาใน          ปริมาณ    1:2  ของแอลกอฮอล์          ประมาณ  2:1   ของว่านหางจระเข้   
  
5.    นำน้ำที่ได้มากรองใส่แอลกอฮอล์   ประมาณ  2:1    ของว่านหางจระเข้
  
6.   ใส่มะนาวลงในน้ำเพื่อดับกลิ่นของว่านหางจระเข้                                         




7.    คนให้เข้ากันแล้วเทใส่ขวดผลิตภัณฑ์ที่เตรียมไว้     
                                                



รู้จักสรรพคุณและสูตรต่าง ๆ ของว่านหางจระเข้กันแล้ว คงต้องเตรียมหาว่านสารพัดประโยชน์ชนิดนี้มาปลูกไว้คู่บ้านกันบ้างแล้วล่ะ รับรองได้ว่าคุ้มเกินคุ้มจริง ๆ จ้า
เว็บไซด์   http://th.wikipedia.org/wiki

แนนนำGoogle Sketch Up


                 วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโปรแกรม Google
Sketch Up ท่านคุณครูและนักเรียน รวมถึงบุคคลทั่วไปที่กำลังมองหาโปรแกรมที่ช่วยในการสร้าง Model สักโปรแกรม เชื่อว่าโปรแกรม Google Sketch Up มีประโยชน์และประสิทธิภาพ เพียงพอที่จะสร้าง Model หรือชิ้นงานแบบง่ายๆในสไตล์ของคุณ

          Google Sketch Up เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแบบจำลอง 3D (Three - Dimensional) ที่มีความง่ายต่อการใช้งาน และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายในและภายนอก การออกแบบกลไกลการทำงานของเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ ภูมิประเทศ ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงงานออกแบบฉาก อาคาร และสิ่งก่อสร้างในเกม หรือจะเป็นกมรจัดฉากทำ Story Boards ในงานภาพยนต์หรือละครโทรทัศน์ก็สามารถทำได้
          นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับปลั๊กอิน (Plugin) ต่างๆที่ถูกพัฒนาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Google Sketch Up ให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพลั๊กอินที่ช่วยให้การสร้างรูปทรงต่างๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ไปจนถึงปลั๊กอินที่ช่วยในการจัดแสงเงาให้ดูสมจริงอย่างเช่น V-Ray หรือ Podium
           


          ความต้องการพื้นฐานของระบบ
           
          Google SketchUp เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถสูง แต่กลับมีความต้องการของระบบต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม ในการทำงานกับโมเดลที่มีความซับซ้อนมากๆ เครื่องคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีความเร็วพอสมควร เพื่อให้การแสดงผลและการทำงานเป็นไปอย่างลื่นไหล โดยทาง Google ได้กำหนดความต้องการพื้นฐานของระบบ

ที่มา  http://th.wikipedia.org/wiki